08.12.2568
4 อาคารสำนักงานชั้นนำในเครือ AWC ได้รับ LEED Gold Certified ตอกย้ำมาตรฐานอาคารระดับโลกที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมและผู้ใช้งาน
ข่าวสาร
อ่าน 3 นาที
ในยุคที่โลกให้ความสำคัญกับความยั่งยืนมากขึ้น “อาคารสีเขียว” จึงไม่ได้เป็นเพียงเทรนด์อีกต่อไป แต่กลายเป็นมาตรฐานใหม่ของอาคารยุคสมัยนี้ ที่ต้องคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมควบคู่ไปกับคุณภาพชีวิตของผู้ใช้อาคารอย่างแท้จริง
เพราะอาคารหนึ่งหลังไม่ใช่แค่สถานที่ทำงาน แต่คือระบบนิเวศขนาดเล็กที่ประกอบด้วยทุกองค์ประกอบที่เราเผชิญในแต่ละวัน ตั้งแต่อากาศที่เราหายใจ น้ำที่เราใช้ พลังงานที่ต้องบริหาร ไปจนถึงคุณภาพของแสง อุณหภูมิ และระบบการจัดการขยะ ซึ่งล้วนส่งผลโดยตรงต่อสุขภาพ ความปลอดภัย และประสิทธิภาพของผู้คนภายในอาคาร
ดังนั้น มาตรฐาน LEED จึงเกิดขึ้นเพื่อกำหนดเกณฑ์ของ “อาคารสีเขียวที่แท้จริง” ทั้งในด้านการออกแบบ การใช้ทรัพยากร และการบริหารอาคารอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะเกณฑ์ LEED ประเภท Operation and Maintenance: Existing Buildings (O+M) ที่ให้ความสำคัญกับ “ประสิทธิภาพจริงของอาคารที่เปิดใช้งานอยู่แล้ว” ผ่านการตรวจสอบข้อมูลการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องในชีวิตประจำวัน
และนี่คือความภาคภูมิใจของ AWC ที่อาคารในเครือทั้ง 4 แห่ง ได้แก่ The Empire, 208 Building Wireless Road, Interlink Tower Bangna และ Athenee Tower ได้รับการรับรองมาตรฐาน LEED Gold Certified (O+M) ครบทุกอาคาร
โดย 7 ประโยชน์สำคัญที่ผู้เช่าจะได้รับจากอาคารของเราที่ผ่านมาตรฐาน LEED GOLD
1) อากาศสะอาดขึ้น ผู้ใช้อาคารหายใจได้สบายและปลอดภัยขึ้น
ด้วยระบบกรองอากาศประสิทธิภาพสูงระดับ MERV 14 ร่วมกับระบบตรวจวัดคุณภาพอากาศแบบเรียลไทม์ ช่วยควบคุมระดับ PM2.5, CO₂, TVOC และฝุ่นละอองขนาดเล็ก พร้อมทั้งลดการปนเปื้อนในอากาศ ส่งผลให้ผู้ใช้อาคารรู้สึกสบาย ลดความเสี่ยงจากอาการระคายเคืองทางเดินหายใจ และสนับสนุนประสิทธิภาพในการทำงานอย่างต่อเนื่อง
2) ลดค่าใช้จ่ายด้วยประสิทธิภาพด้านพลังงานที่ยอดเยี่ยม
อาคารมีระบบติดตามการใช้พลังงานอย่างสม่ำเสมอ ร่วมกับเทคโนโลยีประหยัดพลังงาน เช่น ระบบปรับอากาศและระบบแสงสว่างประสิทธิภาพสูง ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าลดลงอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกขององค์กร
3) น้ำสะอาด ปลอดภัย และประหยัดมากขึ้น
ด้วยระบบตรวจสอบคุณภาพน้ำ ทั้งน้ำใช้และน้ำดื่มอย่างเข้มงวด รวมถึงการออกแบบระบบประหยัดน้ำ ทำให้ผู้เช่าได้รับความมั่นใจด้านความปลอดภัยของน้ำที่ใช้ และประหยัดค่าใช้จ่ายได้ในระยะยาว
4) ระบบจัดการขยะมีประสิทธิภาพ อาคารสะอาดและน่าใช้งานมากขึ้น
ด้วยระบบแยกขยะอย่างเป็นระบบ ทำให้ลดกลิ่นรบกวน ลดปัญหาแมลง และสะท้อนการดำเนินงานที่มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมขององค์กรผู้เช่าได้อย่างดี
5) แสงและอุณหภูมิที่เหมาะสมต่อการทำงาน
อาคารควบคุมระดับแสงสว่างตามมาตรฐาน และมีระบบปรับอากาศที่สามารถควบคุมอุณหภูมิและความชื้นที่เหมาะสม ช่วยลดความล้าของสายตา ลดความอ่อนล้าระหว่างวัน และส่งเสริมประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานอย่างต่อเนื่อง
6) การเดินทางสะดวก ลดเวลาและความเหนื่อยล้าในแต่ละวัน
การวิเคราะห์รูปแบบการเดินทางของผู้ใช้อาคารและการสนับสนุนการใช้ขนส่งสาธารณะช่วยลดความแออัด ลดเวลาการเดินทาง และสนับสนุนการดำเนินงานด้าน ESG ขององค์กรยุคใหม่
7) พื้นที่ปลอดภัยจากสารเคมี พร้อมมาตรการดูแลสุขภาพอย่างใส่ใจ
อาคารเลือกใช้วัสดุที่มีปริมาณ VOC ต่ำ ร่วมกับนโยบาย Green Cleaning และระบบจัดการศัตรูพืชแบบลดการใช้สารเคมี ช่วยให้พื้นที่ทำงานปลอดภัยยิ่งขึ้น และลดความเสี่ยงด้านสุขภาพในระยะยาว
จะเห็นว่า LEED Gold Certified (O+M) ไม่ใช่แค่การรองรับมาตราฐาน แต่เป็นการใส่ใจคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าของผู้เช่าในทุกวันนั้นเอง
เพราะอาคารหนึ่งหลังไม่ใช่แค่สถานที่ทำงาน แต่คือระบบนิเวศขนาดเล็กที่ประกอบด้วยทุกองค์ประกอบที่เราเผชิญในแต่ละวัน ตั้งแต่อากาศที่เราหายใจ น้ำที่เราใช้ พลังงานที่ต้องบริหาร ไปจนถึงคุณภาพของแสง อุณหภูมิ และระบบการจัดการขยะ ซึ่งล้วนส่งผลโดยตรงต่อสุขภาพ ความปลอดภัย และประสิทธิภาพของผู้คนภายในอาคาร
ดังนั้น มาตรฐาน LEED จึงเกิดขึ้นเพื่อกำหนดเกณฑ์ของ “อาคารสีเขียวที่แท้จริง” ทั้งในด้านการออกแบบ การใช้ทรัพยากร และการบริหารอาคารอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะเกณฑ์ LEED ประเภท Operation and Maintenance: Existing Buildings (O+M) ที่ให้ความสำคัญกับ “ประสิทธิภาพจริงของอาคารที่เปิดใช้งานอยู่แล้ว” ผ่านการตรวจสอบข้อมูลการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องในชีวิตประจำวัน
และนี่คือความภาคภูมิใจของ AWC ที่อาคารในเครือทั้ง 4 แห่ง ได้แก่ The Empire, 208 Building Wireless Road, Interlink Tower Bangna และ Athenee Tower ได้รับการรับรองมาตรฐาน LEED Gold Certified (O+M) ครบทุกอาคาร

โดย 7 ประโยชน์สำคัญที่ผู้เช่าจะได้รับจากอาคารของเราที่ผ่านมาตรฐาน LEED GOLD
1) อากาศสะอาดขึ้น ผู้ใช้อาคารหายใจได้สบายและปลอดภัยขึ้น
ด้วยระบบกรองอากาศประสิทธิภาพสูงระดับ MERV 14 ร่วมกับระบบตรวจวัดคุณภาพอากาศแบบเรียลไทม์ ช่วยควบคุมระดับ PM2.5, CO₂, TVOC และฝุ่นละอองขนาดเล็ก พร้อมทั้งลดการปนเปื้อนในอากาศ ส่งผลให้ผู้ใช้อาคารรู้สึกสบาย ลดความเสี่ยงจากอาการระคายเคืองทางเดินหายใจ และสนับสนุนประสิทธิภาพในการทำงานอย่างต่อเนื่อง
2) ลดค่าใช้จ่ายด้วยประสิทธิภาพด้านพลังงานที่ยอดเยี่ยม
อาคารมีระบบติดตามการใช้พลังงานอย่างสม่ำเสมอ ร่วมกับเทคโนโลยีประหยัดพลังงาน เช่น ระบบปรับอากาศและระบบแสงสว่างประสิทธิภาพสูง ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าลดลงอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกขององค์กร
3) น้ำสะอาด ปลอดภัย และประหยัดมากขึ้น
ด้วยระบบตรวจสอบคุณภาพน้ำ ทั้งน้ำใช้และน้ำดื่มอย่างเข้มงวด รวมถึงการออกแบบระบบประหยัดน้ำ ทำให้ผู้เช่าได้รับความมั่นใจด้านความปลอดภัยของน้ำที่ใช้ และประหยัดค่าใช้จ่ายได้ในระยะยาว
4) ระบบจัดการขยะมีประสิทธิภาพ อาคารสะอาดและน่าใช้งานมากขึ้น
ด้วยระบบแยกขยะอย่างเป็นระบบ ทำให้ลดกลิ่นรบกวน ลดปัญหาแมลง และสะท้อนการดำเนินงานที่มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมขององค์กรผู้เช่าได้อย่างดี
5) แสงและอุณหภูมิที่เหมาะสมต่อการทำงาน
อาคารควบคุมระดับแสงสว่างตามมาตรฐาน และมีระบบปรับอากาศที่สามารถควบคุมอุณหภูมิและความชื้นที่เหมาะสม ช่วยลดความล้าของสายตา ลดความอ่อนล้าระหว่างวัน และส่งเสริมประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานอย่างต่อเนื่อง
6) การเดินทางสะดวก ลดเวลาและความเหนื่อยล้าในแต่ละวัน
การวิเคราะห์รูปแบบการเดินทางของผู้ใช้อาคารและการสนับสนุนการใช้ขนส่งสาธารณะช่วยลดความแออัด ลดเวลาการเดินทาง และสนับสนุนการดำเนินงานด้าน ESG ขององค์กรยุคใหม่
7) พื้นที่ปลอดภัยจากสารเคมี พร้อมมาตรการดูแลสุขภาพอย่างใส่ใจ
อาคารเลือกใช้วัสดุที่มีปริมาณ VOC ต่ำ ร่วมกับนโยบาย Green Cleaning และระบบจัดการศัตรูพืชแบบลดการใช้สารเคมี ช่วยให้พื้นที่ทำงานปลอดภัยยิ่งขึ้น และลดความเสี่ยงด้านสุขภาพในระยะยาว
จะเห็นว่า LEED Gold Certified (O+M) ไม่ใช่แค่การรองรับมาตราฐาน แต่เป็นการใส่ใจคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าของผู้เช่าในทุกวันนั้นเอง